My community


                                                      
                                                ตำนานเมืองคล้องช้าง  น้ำยางพันธุ์ดี  มากมีผลไม้  พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์

                                                                                 Chang central theme.
                                         Good Rubber Sap
                                                                       Lotsof Fruits
                                              Sacred Tan Klai


ประวัติ โดยย่อ
  ชื่อช้างกลาง นั้นูเคียงกับ ช้างซ้าย และช้างขวา ในประวัติศาสตร์ อำเภอช้างกลาง(ชาลี ศิลปะรัศมี อดีตข้าราชการครู อ.3 ระดับ 9 ผู้ศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์พื้นบ้าน ) กล่าวถึงที่มาของชื่อนี้ในประวัติศาสตร์โบราณคดีว่าดังนี้ การยกทัพด้วยพล 17 หมื่น ของพระเจ้าสุชิตราชแห่งตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช) ไปตีอาณาจักรละโว้ เมื่อ พ.ศ.1570 ย่อมแสดงว่านครศรีธรรมราช ได้ใช้กองทัพช้างตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาและช้างป่าที่จับมาฝึกเป็นช้างศึกหรือใช้ในราชการ หรือช้างเผือกที่ส่งมาบรรณาการกรุงศรีอยุธยา ก็ได้ไปจากป่าเขาหลวงแถบเขาพระสุเมรุหรือเขาเหมน  ทุ่งสง  ฉวาง   นาบอน  ทุ่งใหญ่  ถ้าพรรณรา  ลำพูล (พระแสง)  นั้นเอง   ช้างที่จับได้ฝึกหัดแล้ว จะจัดส่งเข้ากรมช้างถึง  3 กรม  คือ

               1. กรมช้างขวา ตั้งอยู่ที่เวียงสระสำหรับควบคุมช้างที่จับได้แถบลำพูล และควบคุมพื้นที่บริเวณลุ่มน้ำตาปี บริเวณปากแม่น้ำ  ซึ่งขณะนั้นจังหวัดสุราษฎร์ธานียังไม่มี มีแต่ไชยาเเก่า ที่บ้านดอนสุราษฎร์ธานีเพิ่งตั้งขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2456
               2.กรมช้างกลาง  ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลช้างกลาง เพื่อควบคุมช้างที่จับได้แถบป่าฉวางทุ่งใหญ่  นาบอน  ทุ่งสง  และกรมช้างกลางจะควบคุมพื้นที่ 4 หัวเมืองอันเป็นบริเวณยุทธศาสตร์ ด้านตะวันตกของเมืองนครศรีธรรมราช  คือ  หัวเมืองพิปูน  หัวเมืองกะเปียด  หัวเมืองละอาย และหัวเมืองหลักช้างโดยกรมช้างกลางนี้ เป็นกำลังหลักของกองทัพช้างของ นครศรีธรรมราช มาเป็นเวลายาวนาน


               3. กรมช้างซ้าย  ตั้งอยู่ตำบลช้างซ้าย  ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอพระพรหมสำหรับพักช้าง ที่ใช้ในตัวเมืองรักษาพระนคร


ที่ตั้งและอาณาเขต
                                                                                                      แผนที่ตำบล

อำเภอช้างกลางตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอฉวาง
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอลานสกา
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอทุ่งสงและอำเภอนาบอน
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอฉวาง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอช้างกลางแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 3 ตำบล 36 หมู่บ้าน ได้แก่
1.             ช้างกลาง                                (Chang Klang)          17 หมู่บ้าน           
2.             หลักช้าง                 (Lak Chang)                         10 หมู่บ้าน           

3.             สวนขัน                   (Suan Khan)                          9 หมู่บ้าน

แหล่งท่องเที่ยว

 1.  น้ำตกท่าแพ
                                                                                                             




หมู่ที่ 14 ตำบลช้างกลาง สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-จันดี-ฉวาง-บ้านส้อง (ทางหลวงหมายเลข 4015) 36 กม. และมีทางแยกขวามือ มีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกท่าแพประมาณ 2 กม. น้ำตกท่าแพมี 10 ชั้น ชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้ คือ หนานแพน้อย หนานนางครวญ และหนานเตย

2.น้ำตกสวนขัน





อยู่หมู่ที่ 3 ตำบลสวนขัน สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-ลานสกา-จันดี (ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทาง 55 กม. และต่อรถโดยสารประจำทางสายจันดี-พิปูน ระยะทาง 4 กม. บริเวณรอบน้ำตกยังเป็นป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงามเหมาะแก่การเดินป่า ชมธรรมชาติ ศึกษาพันธุ์ไม้
3.วัดธาตุน้อย





วัดธาตุน้อย หรือ วัดพระธาตุน้อย อีกหนึ่งศาสนสถานที่มีความสำคัญและยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ โดยวัดนั้นตั้งอยู่ในเขตตำบลหลักช้าง กิ่งอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งขึ้นโดยความประสงค์ของพ่อท่านคล้าย (พระครูพิศิษฐ์อรรถการ) พระเกจิอาจารย์ที่ชาวใต้เลื่อมใสศรัทธาอย่างสูงยิ่งรูปหนึ่ง วัดธาตุน้อยมีเนื้อที่ 46 ไร่ สร้างขึ้นบนที่ดินซึ่งนายกลังพร้อม ถวายแด่พ่อท่านคล้าย ท่านจึงได้สร้างพระธาตุน้อยขึ้นใน ปี 2504 ปัจจุบันสรีระพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ประดิษฐ์ฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ ณ สถานที่นี้ จึงเป็นเจดีย์อนุสรณ์สถานพ่อท่านคล้ายอีกด้วย สังขารพ่อท่านคล้ายซึ่งว่ากันว่าแข็งเป็นหิน ที่บ้านนับถือและศรัทธาด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสักการบูกันมากยิ่งขึ้น
4.วัดมะนาวหวาน







วัดมะนาวหวาน  ตั้งอยู่เลขที่  ๑๒๖  หมู่ที่ ๔  ตำบลช้างกลาง   อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช  ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๓๖  ทางหลวง
ที่น่าสนใจ คือ
งก่อสร้างเก่าแก่ที่ปรากฏและเป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำวัดมะนาวหวาน  คือ  พระเจดีย์สองพี่น้อง  ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำจันดี  หน้าอุโบสถ  ระยะห่างกันระหว่างองค์เจดีประมาณ  ๖.๕๐  เมตร  ลักษณะสถูปเจดีย์ก่อสร้างด้วยอิฐขนาดใหญ่  แต่ปรักหักพังลงตามกาลเวลาคงเหลือเป็นซากฐานและองค์เจดีย์ไม่มียอด  มีวัชพืชปกคลุมอยู่รอบๆ
ประชาชนศรัทธาเชื่อกันว่า  เป็นเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุอนุสรณ์ท่าน  สมภารอิน - สมภารจัน”         เจ้าอาวาสสองรูปที่เป็นพี่น้องกัน ผู้สร้างและบำรุงรักษาวัดมะนาวหวานมาแต่อดีต ปัจจุบันพระเจดีย์สองพี่น้อง ได้รับการบูรณะตามราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตรัสถามเจ้าอาวาสเป็นเชิงแสดงพระราชประสงค์ว่า จะบูรณะหรือไม่
การบูรณะ  เริ่มจากการสำรวจ การขุดเรื้อ  ออกแบบ  และดำเนินการก่อสร้าง  เสร็จสิ้นในปี  ๒๕๓๕  และอัญเชิญอัฐิธาตุพร้อมของมีค่าบรรจุคืน  เมื่อวันที่  ๓  พฤษภาคม  ๒๕๓๗

5.เขาเหมนรีสอท
ตั้งอยู่ที่ 147 หมู่ 10 ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช




    


กลุ่มเลี้ยงผึ้งควนส้าน

                                                                                                                 
เป็นกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงไทยจำนวนประมาณ 200 รัง โดยเลี้ยงในสวนผลไม้เป็นการเพิ่มรายได้เกษตรกรด้วยการขายน้ำผึ้งและยังมีผลพลอยได้จากการให้ผึ้งเป็นตัวผสมเกษตรดอกไม้ ช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง นอกจากการจำหน่ายน้ำผึ้งแล้ว ทางกลุ่มยังผลิตอุปกรณ์เลี้ยงผึ้งจำหน่ายแก่เกษตรกรและผู้สนใจอีกด้วย การเดินทางใช้เส้นทาง 4015 และแยกขวาที่กิโลเมตร 35 - 36 เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร ถึงหน้าวัดควนส้านเลี้ยวขวาตรงทางแยกตรงข้ามกับประตูวัด เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังผ่านสวนยางพาราและข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายอีก 200 เมตร ถึงที่ทำการกลุ่มติดต่อที่ ศูนย์ส่งเสริมท่องเที่ยวเกษตรช้างกลาง โทรศัพท์ 0-7548-6616 / 0-1124-3214
การติดต่อสวนเกษตรกรในสถานที่ต่างๆ ติดต่อโดยตรงได้ที่แหล่งท่องเที่ยวหรือติดต่อผ่านศูนย์ส่งเสริมท่องเที่ยวเกษตรช้างกลาง ที่หมายเลข 0-7548-6616 / 0-1124-3214

อ้าง อิง  http://www.thai-tour.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น